AI Face Recognition หรือ “คือ เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า” ซึ่งเป็นระบบที่ทำการจดจำใบหน้าเพื่อแยกแยะและยืนยันตัวตนของบุคคล ด้วยการใช้ระบบ AI (Artificial Intelligence) ในการวิเคราะห์ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์บนใบหน้าของแต่ละบุคคลเช่น ดวงตา จมูก คิ้ว ปาก และโครงสร้างของหน้า แล้วนำมาเทียบกับฐานข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อยืนยันว่าใบหน้าที่ตรวจจับได้ถูกต้องและแม่นยำหรือตรงกับบุคคลนั้นจริงๆ

เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Face Recognition) คืออะไร?

เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า หรือ เทคโนโลยี (Face Recognition) เป็นเทคโนโลยีเพื่อการระบุและพิสูจน์ตัวตนของบุคคล (Identification) โดยการนำรูปใบหน้าของมนุษย์จากภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว มาวิเคราะห์และจำแนกแยกแยะองค์ประกอบลักษณะเฉพาะบุคคล เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลของใบหน้านั้นกับฐานข้อมูลใบหน้าที่มีการจัดเก็บไว้ใน
Face Recognition หรือ “เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า” คือ ระบบที่ทำการจดจำใบหน้าเพื่อแยกแยะและยืนยันตัวตนของบุคคล ด้วยการใช้ AI (Artificial Intelligence) ในการวิเคราะห์ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์หรือ อัตลักษณ์บนใบหน้าของแต่ละคน เช่น ดวงตา จมูก คิ้ว ปาก และโครงหน้า แล้วนำมาเทียบกับฐานข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อยืนยันว่าใบหน้าที่ตรวจจับได้ถูกต้องและตรงกับบุคคลนั้นๆจริงซึ่งการปลดล็อกสมาร์ทโฟน การเข้ารหัสในแอปฯ หรือการยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมออนไลน์ต่างๆซึ่งในปัจจุบันก็หนีไม่พ้นด้วยระบบสแกนใบหน้า แต่จริงๆแล้ว Face Recognition เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ใช่เรื่องใหม่อย่างที่ใครหลายคนคิด แต่ได้มีการคิดค้นหรือสร้างมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1960s แล้ว และได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องมากว่าหลายสิบปี แต่ด้วยการผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ยุคใหม่ ( AI : Artificial Intelligence) ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา โดยการใช้ Algorithm เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ปัญหาและองค์ประกอบต่างๆ ที่อยู่บนใบหน้าของมนุษย์

เทคโนโลยี Face Recognition ทำงานอย่างไร?

การทํางานของระบบจดจําใบหน้า (Face Recognition System) มีอยู่หลายวิธีด้วยกัน ซึ่งในแต่ละวิธีก็จะมี Methods หรือ Algorithm ในการทำงานที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับผู้พัฒนา    ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา Machine Learning, Deep Learning ซึ่งทำให้ Facial Recognition AI ฉลาดและแม่นยำมากขึ้น หรือการนำซอฟต์แวร์อื่นๆ เข้ามาช่วยในที่นี้จะขอยกตัวอย่างแนววิธีเชิงลักษณะ (Feature-based Approach) ซึ่งเป็นแนววิธีที่ได้รับความนิยมสูง โดยทั่วไปจะประกอบไปด้วย 5 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้

1. การตรวจจับใบหน้า (Face Detection)

ให้เราสแกนหน้าที่เครื่องสแกนใบหน้า แล้วให้เครื่องทำการตรวจสอบในส่วนที่เป็นใบหน้าของมนุษย์จากนั้นจะทำให้ระบบทราบได้ว่ามีใบหน้าของมนุษย์ปรากฏอยู่ในระบบ ซึ่งเครื่องจะ จับกรอบใบหน้าของเรา เพื่อนำไปประมวลผลในขั้นตอนถัดไปซึ่งในขั้นตอนนี้เป็นเพียงการค้นหาใบหน้ามนุษย์เท่านั้น ยังไม่ใช่การระบุตัวตนว่าบุคคลนั้นเป็นใคร ซึ่งปัจจุบันมีระบบที่ชื่อว่า Algorithm อยู่หลายวิธีเพื่อให้ software ใช้ในการแยกแยะใบหน้าของมนุษย์

• การปรับรูปใบหน้าให้ตรงบรรทัดฐาน (Face Alignment / Normalization)

ขั้นตอนต่อมา คือการจัดหรือปรับ (Align) องศาของศรีษะและใบหน้า (Head Pose) รวมทั้งแสงเงา เพราะในความเป็นจริงใบหน้าที่ตรวจจับได้อาจจะไม่ได้ตั้งตรงหรือมองตรงมาที่กล้องเสมอไป เช่น อาจจะเอียงคอ หันหน้าเบี่ยงซ้ายขวา หรือก้มเงยศีรษะเล็กน้อย ซึ่งจะมีผลทำให้เกิดเงาด้วย ดังนั้นจึงต้องจัดรูปใบหน้าให้อยู่ในรูปแบบปกติ คือหน้ามองตรงและศีรษะตั้งตรง ก่อนที่จะดำเนินการขั้นตอนต่อไปวิธีหนึ่งที่เป็นที่นิยมในการทำ Face Alignment ก็คือการหา จุดหลักๆบนหน้า เช่น ตาซ้ายตาขวา จมูก ปาก แล้ว จับภาพให้จมูกอยู่ตรงกลาง จากนั้นก็ทำการ Transformation ต่างๆ เช่น การ Rotate เป็นต้น

• การหาจุดเด่น (Feature Extraction)

จากนั้นนำภาพที่ผ่านการ Align หรือ Normalize แล้ว มาทำการหาลักษณะเด่นของใบหน้า (Face Feature) ซึ่งก็คือการวิเคราะห์องค์ประกอบต่างๆ แล้วแปลงเค้าโครงรูปพรรณสัณฐานของใบหน้านั้นให้เป็นข้อมูลนั่นเอง ข้อมูลที่ได้นี้จะเรียกว่า “โมเดลใบหน้า” หรือ “Faceprint”การร่าง “Faceprint” เองก็มี Algorithm ในการทำอยู่หลายรูปแบบ โดยรูปแบบพื้นฐานสำหรับ Feature-based Approach จะทำโดยการมาร์จุดลงบนส่วนเด่นของใบหน้า (Facial Landmark) เช่น หน้าผาก คิ้ว ตา จมูก ปาก คาง ฯ และจุดที่ได้นี้จะเรียกว่า Nodal Point ซึ่งโดยส่วนใหญ่เราจะสามารถมาร์คจุดบนใบหน้าของมนุษย์ได้ทั้งหมดประมาณ 80 Nodal Points เช่น มุมปากสองข้าง, หัวคิ้วและหางคิ้ว, หัวตาและหางตา, ขอบจมูกซ้ายขวา เป็นต้น

• การป้องกันปลอมแปลง (Anti-spoofing)

เป็นขั้นตอนเสริมในการป้องกันการปลอมแปลง เช่น ตรวจสอบว่าภาพนําเข้า (Input) มีการปลอมแปลงภาพหรือไม่ เป็นต้น

• การจับคู่ลักษณะเด่น (Feature Matching / Classification)

นำข้อมูล Faceprint ที่ได้ มาทำการประมวลผลและเปรียบเทียบกับฐานข้อมูล (Database) เพื่อให้ทราบว่าตรงกับข้อมูล Faceprint ของผู้ใดที่มีการลงทะเบียนบันทึกไว้ก่อนหน้าแล้ว

จะเห็นได้ว่า AI Face Recognition หรือระบบที่สแกนใบหน้า ค่อนข้างเป็นระบบที่สมบูรณ์แบบมากด้วยเทคโนโลยีของทศวรรษนี้ถือว่าเป็นระบบที่ก้าวกระโดดมากถ้าเทียบกับเครื่องสแกนนิ้วทั่วไป แต่ถ้าหากว่าองค์กรท่านใดสนใจระบบนี้ท่านอย่าลืมที่จะทักหาเราทางช่องทาง Facebook AI Soft Consulting หรือ Line ID : @aisoftconsulting หรือ https://lin.ee/O24Xyri